วัดขุนสมุทรจีน หนึ่งวันกับประสบการณ์เดินทางในเมืองปริมณฑลใกล้กรุงเทพ
วัดขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ
หนึ่งวันกับประสบการณ์เดินทางในเมืองปริมณฑลใกล้กรุงเทพ
โดย รถ-เรือ (ขนส่ง)สาธารณะ
ไปได้.. เท่าที่เราจะไป
Photo by MUA
สวัสดีค่ะ เปิดบล็อกด้วยเพลงที่มีความหมายดีๆ (ในอารมณ์เทาๆ) เกี่ยวกับความทรงจำกันไปสักพักแล้ว
คราวนี้ถึงเวลาของการรีวิวสถานที่ในความทรงจำกันบ้างเนอะ
รีวิวสถานที่ที่จะเก็บไว้ในความทรงจำแห่งแรกของเราก็คือ
"วัดขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ"
นั่นเองค่ะ
คราวนี้ถึงเวลาของการรีวิวสถานที่ในความทรงจำกันบ้างเนอะ
รีวิวสถานที่ที่จะเก็บไว้ในความทรงจำแห่งแรกของเราก็คือ
"วัดขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ"
นั่นเองค่ะ
วัดขุนสมุทรจีน ตั้งอยู่ที่ ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
วัดขุนสมุทรจีน อยู่ในชุมชนชายฝั่งติดกับทะเล ที่ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียง และควรค่าแก่การดูแลรักษาทะนุบำรุง เพราะน้ำทะเลที่กัดเซาะเข้ามายังเขตพื้นที่วัด และบริเวณพื้นที่โดนรอบ ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดที่ล้อมไปด้วยน้ำทะเล
การเดินทางไปที่วัดขุนสมุทรจีนนี้ค่อนข้างที่จะตื่นเต้นพอสมควรค่ะ เพราะนอกจากจะตื่นเต้นหากนั่งรถผิดหรือหลงทางบ้างแล้ว บางคนก็อาจจะตื่นเต้นกับการนั่งเรือหางยาว(?)ในคลองด้วย
เริ่มต้นการเดินทางที่จตุจักร สถานที่ชุมนุมรถสาธารณะหลายสาย ขึ้นรถเมลล์สาย 138 (ราชประชา) ด้านหน้าสวนนะคะ นั่งมาสุดสายลงที่อู่รถราชประชาก็ได้ค่ะ แต่เราแนะนำให้ลงที่บิ๊กซีสุขสวัสดิ์น่าจะสะดวกและหารถต่อเข้าไปง่ายกว่า
จากนั้นก็นั่งรถต่อเข้ามายังท่าเรือพระสมุทรเจดีย์ค่ะ โดยรถที่จะมานั้นมีตั้งแต่รถสองแถวสีน้ำเงิน ท่าเรือเจดีย์-พระประแดง หรือรถเมลล์สาย 20 และรถตู้คันสีขาวๆ (ขึ้นฝั่งบิ๊กซีนะ)
เมื่อมาถึงท่าเรือพระสมุทรเจดีย์แล้ว ต่อรถสองแถวคันสีน้ำเงิน แต่คราวนี้เป็นรถที่จะไป สาขลา นะคะ (จะมีรถสีน้ำเงิน 3 คัน คือ วัดแหลมฟ้าผ่า, สาขลา และป้อมพระจุลฯ) ก็ขึ้นรถจ่ายค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย บอกกระเป๋าว่าลงที่ ท่าเรือป้าสาลี่ ค่ะ
ถึงท่าเรือแล้วก็ไปลงเรือกันค่ะ
ค่าโดยสารเรือ จะคิดที่คนแรก 100 บาท คนต่อไป 10 บาท ค่ะ เรือ 1 ลำ นั่งได้ 4-10 คน
ลงเรือกัน ^^ |
บรรยากาศระหว่างนั่งเรือ |
ตื่นเต้นมาก เวลามีเรือสวนทางมา จะมีคลื่นน้ำพัดให้เรือโคลงเคลงๆ สนุกมากๆค่ะ |
นั่งชมบรรยากาศริมคลอง ต้นไม้ บ้านเรือน วิถีชีวิตของคนที่นี่ ใช้เวลาสักพักก็มาถึงแล้วค่ะ
"ท่าเรือวัดขุนสมุทรจีน"
พี่คนขับเรือแนะนำวิธีกลับ และให้นามบัตรมาด้วย |
ที่บริเวณท่าเรือก็จะมีป้ายชี้แจ้งอัตราค่าโดยสาร และเวลาการเดินเรือ รวมทั้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของพี่ๆลุงๆคนขับเรือด้วยค่ะ
มาถึงท่าเรือแล้วเราก็ต้องเดินทางต่อค่ะ ยังไม่ถึงง่ายๆนะคะ จะมีรถตุ๊กตุ๊กคันเขียวไว้คอยบริการรับส่งจากท่าเรือไปยังวัด ค่าบริการ คนละ 20 บาทค่ะ
สองข้างทางระหว่างไปยังวัด จะเป็นบ่อเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลา ทำการประมงของคนในชุมชนบริเวณนั้น และผ่านเข้าไปยังเขตป่าชายเลน มีต้นไม้สีเขียว และสัตว์ต่างๆ เช่น ปลาตีน, ปูทะเล เป็นต้นค่ะ
และก็มาถึงค่ะ วัดขุนสมุทรจีน
เดินเข้าไปในบริเวณวัด มีความสงบเงียบค่ะ ตอนที่เราไปมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก มาถึงก็ตรงไปที่โบสถ์ที่ถูกกล่าวขานว่ามีร่องรอยของน้ำทะเลกัดเซาะจนเกือบจะจมหายไปค่ะ ในโบสถ์มีพระพุทธรูปที่กราบไหว้ขอพรด้วยค่ะ
นอกจากโบสถ์เก่าแก่แล้ว บริเวณวัดโดยรอบมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรองค์ใหญ่ตั้งเด่นตระง่าหันหน้าออกไปทางทะเล และมีศาลพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์พันมือ รวมถึงศาลาที่ตั้งพระอุปคุตอรหันต์ จ้าวแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร ผู้บันดาลโชคลาภและความสำเร็จด้วย
ชอบสีท้องฟ้าในฤดูร้อน |
ดอกโป๊ยเซียนในบริเวณวัด สีสวยมาก |
นอกจากจะเป็นวัดที่มีเรื่องราวที่น่าจดจำและควรค่าแก่การทะนุบำรุงแล้ว วัดขุนสมุทรจีนยังเป็นสถานที่พักผ่อนที่สงบ ร่มรื่นที่มีความเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก
และในชุมชนโดยรอบแห่งนี้ยังมีอีกหลายสถานที่ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอีกมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นบ้านขุนสมุทรจีน, ป่าชายเลน, ศาลเจ้าพ่อหนุ่มน้อยลอยชาย และโฮมสเตย์ของคนในชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน
เป็นสถานที่หนึ่งในความทรงจำดีๆ
และฝากไว้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จะมาสร้างความทรงจำดีๆกันนะคะ
ดอกมะเขือ(?) ระหว่างทาง |
ขอบคุณสำหรับการเข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น